แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แมลงสาบ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แมลงสาบ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

การกระจายตัวของแมลงสาบ


การกระจายตัวของแมลงสาบ

แมลงสาบ มีแหล่งกำเนิดในเขตอบอุ่น และสามารถดำรงชีวิตอยู่ภายนอกอาคารที่พักอาศัยได้ แมลงสาบ ที่สามารถปรับตัวเข้ามาอยู่ในที่พักของมนุษย์ได้ เรียกว่า domestic species การแพร่กระจายของแมลงสาบเกิดขึ้นจาการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเรือ นอกจากนั้นแล้วยังสามารถติดไปกับห้องเก็บสัมภาระ และห้องครัวในเครื่องบินอีกด้วย ซึ่ง แมลงสาบ ชนิดที่มีความสำคัญคือ แมลงสาบ เยอรมัน และ แมลงสาบ อเมริกัน

ในเขตร้อน มีความหลากหลายของ แมลงสาบ มากกว่าในเขตอบอุ่น สามารถพบได้ตั้งแต่ แมลงสาบ ที่มีลำตัวใหญ่จนถึง แมลงสาบ ที่มีลำตัวขนาดเล็ก แมลงสาบ บางชนิดมีแหล่งอาศัยอยู่ในบริเวณที่โล่งแจ้งตามป่า ภูเขา ในถ้ำค้างคาว ส่วนใหญ่จะอาศัยบริเวณใต้เปลือกไม้ของต้นไม้ที่ตายแล้ว ในท่อนซุงผุ และอยู่ใต้ใบกิ่งไม้ที่ร่วงทับถมบนพื้นป่า บางชนิดจะพบอาศัยอยู่ในเขตแห้งแล้งโดยการหมกซ่อนตัวอยู่ในทราย สามารถพบได้ตามกระสอบ กล่องกระดาษหรือหีบห่อที่มีอาหาร ในร้านซักแห้ง หรือในห้องครัวที่มีการเตรียมอาหาร ร้านอาหาร ตลาด ในกล่องกระดาษที่บรรจุเครื่องดื่มประเภทเบียร์ ซึ่งพบว่ามีตัวอ่อนของ แมลงสาบ อยู่ในขวดเบียร์เพียงขวดเดียวมากถึง 200 ตัว และยังสามารถพบตามเครื่องไฟฟ้า เป็นจำนวนพัน ๆ ตัวโดยที่แมลงสาบเหล่านี้มีชีวิตรอดอยู่ได้ในสภาพที่ไม่มีอาหาร แต่จะกินผิวหนังที่ลอกคราบออกมาและกินซาก แมลงสาบ ตัวอื่นๆที่ตายแล้ว มักจะพบ แมลงสาบ ตามพื้นที่มืดและชื้น โดยมันจะเข้ามาภายในบ้านทางท่อต่างๆ ช่องระบายอากาศ หรือใต้บางประตู


ที่มา http://takthanaphatz.blogspot.com/

แมลงสาบเป็นแมลงที่มีความสำคัญทางสาธารณสุข

แมลงสาบเป็นแมลงที่มีความสำคัญทางสาธารณสุข 

กล่าวคือ ภายในและภายนอกลำตัวของ แมลงสาบ ที่มีเชื้อจุลินทรีย์หลายชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคที่เกิดกับมนุษย์ พบได้ในเกือบทุกส่วนของร่างกาย หรือแม้กระทั่งในมูลขอ งแมลงสาบ และมักจะพบเชื้อ Salmonella ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษอยู่เสมอ พบว่ามูลของแมลงสาบอเมริกันที่มีเชื้อ Salmonella oranienburg ซึ่งสามารถแพร่ไปยังอาหารของมนุษย์และภาชนะแก้ว เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในช่วงระยะเวลานานกว่า 3 ปี

แมลงสาบอเมริกันที่มีเชื้อจุลินทรีย์โปรโตซัว Toxoplasma จะก่อให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์ ซึ่งการติดต่อเชื้อโรคนี้เกิดขึ้นโดย แมวที่กินนกหรือหนูเป็นอาหาร ซึ่งนกหรือหนูนั้นมีเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้อยู่ เมื่อแมวถ่ายมูลออกมาเชื้อจะปะปนอยู่ในมูลของแมว แมลงสาบและแมลงวันบางชนิดจะกินหรือเดินผ่านมูลของแมว ซึ่งจะสามารถปนเปื้อนบนอาหารของมนุษย์ได้หากแมลงสาบเดินผ่านและแมลงสาบก็ยังกลับไปเป็นอาหารของนก หนู หรือแมวได้อีกเช่นกัน
ที่มาhttp://takthanaphatz.blogspot.com/

เหลือเชื่อ !!! "แมลงสาบ" ทำให้น้ำอัดลมเปลี่ยนสีได้





เหลือเชื่อ !!! “แมลงสาบ” ทำให้น้ำอัดลมเปลี่ยนสีได้

ที่ระเบียงห้องผมมีน้ำอัดลมสีแดงที่เปลี่ยนจากการให้กุมารทอง ยังไม่ได้ไปทิ้ง เลยเก็บรวมๆกันไว้ มีอยู่ 4-5 ขวด อยู่ๆวันหนึ่งนึกขึ้นได้เลยจะเอาไปทิ้ง ก็ต้องแปลกใจเพราะมีน้ำอัดลมขวดหนึ่งไม่ได้เป็นสีแดงอย่างที่ควรจะเป็น กลับกลายเป็นสีขาวขุ่นๆ ตามภาพ

o0rtsxnl6RcA4yjPPyx-o

ผมสงสัยว่าเกิดจากอะไร ทำไมมันจึงเปลี่ยนสี เลยลองดูในขวด พบแมลงสาบนอนตายอยู่ในขวด

o0rtv8gznLPr9542356-o

แมลงสาบทำให้น้ำอัดลมเปลี่ยนสีได้ด้วยเหรอครับ เพิ่งรู้

2016-01-11_21-01-56

แมลงสาบตัวนี้ดื่มน้ำแดงจนหมดขวด แต่เพราะกินมากจุกท้องจึงกลับขึ้นไปไม่ได้

แมลงสาบใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในนั้น และคิดว่าต้องฉี่และน้ำลายออกมาให้มากที่สุด เพื่อที่จะเติมน้ำให้เต็มและได้กลับไปหาครอบครัวได้อีกครั้ง

แมลงสาบได้พยายามอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายก็ฉี่ออกมาได้เพียงเท่านั้น ไม่สามารถทำให้เต็มขวดได้

มันรู้ดีว่าฉี่ของมันนั้นหมดแล้ว แต่มันยังไม่ล้มเลิกความพยายาม มันใช้การคั้นน้ำที่ผู้ชายทุกคนมี จึงไม่แปลกที่บางส่วนของน้ำจะเป็นสีขาวขุ่น

มันทำอย่างเต็มที่แล้ว และคิดว่า โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ได้พยายามอย่างเต็มที่ ดีกว่ายอมตายตั้งแต่อยู่ก้นขวด

มันจากไปอย่างสงบ และสิ่งที่แมลงสาบตัวนั้นทำ ได้สร้างความหมายให้กับผู้คนอีกมากมายที่ได้เห็นรูปนี้

ชีวิตของคนเรา ตราบใดที่ยังมีชิวิตอยู่ เราสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินตัวได้ ดังเช่นแมลงสาบตัวเล็กจิ๋วนี้

ขอให้เรื่องราวของแมลงสาบตัวนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังรู้สึกสิ้นหวังในชีวิตครับ

2016-01-11_21-02-13

รสเปลี่ยนหรือเปล่าครับ รบกวน จขกท.ชิมให้หน่อย ถ้าไม่เปลี่ยนน่าจะนำไปศึกษาต่อยอดได้ครับ

รบกวนอุทิศตนเพื่อวิทยาศาสตร์หน่อยครับ ขอบคุณครับ

2016-01-11_21-02-28

แปลกมากครับ ในเบื้องต้นก็ไม่คิดว่าสาเหตุคือแมลงสาบครับ

เพราะน้ำแฟนต้าใช้สีแดงจาก Coloring agent E-127 (Erythrosine) ซึ่งไม่ค่อยมีปฏิกิริยาเปลี่ยนสีได้ง่าย ๆ เลย

หากช่วงนี้ฝนตกเยอะ อาจเป็นไปได้ว่าขวดนี้ถูกน้ำฝนตกใส่จนแทนที่น้ำแดงออกไปหมด แล้วแมลงสาบมาตกลงไปภายหลัง

หรืออาจพิสูจน์อีกอย่างโดยใช้เครื่องวัดความหวานครับ หากวัดได้ประมาณ 12 – 14 Brix แสดงว่านั่นคือน้ำแฟนต้า

ส่วนค่า Ph อาจไม่ได้ผลนัก เพราะ Carbondioxide ระเหยออกไปเยอะแล้วแล้วตั้งแต่เปิดฝาขวด แต่น่าจะวัดได้ Ph ต่ำกว่า 7 อยู่บ้าง

ขอบคุณข้อมูลจาก : เตวิชญ์

เรียบเรียงโดย BEBE ทีม BaaBinz.com

แมลงสาบผู้รอดชีวิตจากสงครามนิวเคลียร์


แมลงสาบมีชื่อเสียงมานานแล้วว่า เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทนทายาด และมีการยืนกรานแล้วว่าแมลงสาบเป็นสิ่งมีชีวิตที่รอดชีวิตจากระเบิด นิวเคลียร์แน่นอน แต่กระนั้นเราก็ไม่สามารถหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ เลยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น บางทีอาจเป็นเพราะเซลล์ของแมลงสาบอาจสามารถฆ่ารังสีที่เป็นตัวก่อมะเร็ง, หรืออาจเป็นเพราะมันสามารถทนอยู่กับสภาพกัมมันตรังสี ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งได้

http://u-rass.blogspot.com/

แมลงสาปหัวขาดแล้ว แต่ยังไม่ตาย


ด้วยลักษณะโครงสร้างของแมลงสาบ ทำให้มันค่อนข้างทนทานกับแรงกระแทกและอื่นๆอีกมากมาย บางครั้งก็เอาของหนักวางทับมัน มันก็ไม่ตาย และที่อึดยิ่งกว่านั้น คือ หัวขาดแล้วยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ซึ่งน่าแปลกมากทำไมแมลงสาปโดนตัดหัวแล้วไม่ตาย แต่ในขณะที่มนุษย์โดนตัดหัวถึงตาย นักวิทยาศาสตร์ได้ให้คำอธิบายว่า เปรียบเทียบระหว่างคนและแมลงสาปโดนตัดหัวว่า คนเรานั้นเมื่อโดนตัดหัวจะเสียชีวิตทุกรายเพราะเสียเลือดแรงดันเลือดต่ำลง ทำให้ไม่สามารถส่งออกซิเจนและสารอาหารเดินทางไปเลี้ย งเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ อีกประการหนึ่ง คนหายใจทางปากและจมูก มีสมองทำหน้าที่ควบคุมการทำงานที่สำคัญ เมื่อไม่มีศีรษะระบบหายใจก็หยุดทำงาน และไม่มีช่องทางสำหรับอาหารเข้าสู่ร่างกาย
แต่ระบบร่างกายของแมลงสาบ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แมลงสาบไม่มีแรงดันโลหิตเหมือนคน มันไม่มีเครือข่ายเส้นเลือด หรือเส้นเลือดฝอยเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียน แมลงสาบใช้ระบบเส้นเลือดไหลเวียนแบบเปิด ซึ่งใช้มีแรงดันโลหิตน้อยมาก หลังจากแมลงสาบถูกตัดหัวขาดแล้ว แผลที่คอจะสมานอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดไม่ไหลทะลักออกจนตาย แมลงสาบยังหายใจผ่านทางท่อหายใจขนาดเล็กที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่จำเป็นต้องใช้สมองควบคุมการหายใจ และเลือดไม่ได้เป็นตัวลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย แต่เนื้อเยื่อต่อตรงเข้ากับท่อหายใจโดยตรง
แมลงสาบยังเป็นสิ่งมี ชีวิตที่เรียกว่า สัตว์เลือดเย็น หมายความว่า กินอาหารน้อยกว่ามนุษย์ ดังนั้น ถ้ามันได้กินอาหารสักมื้อ มันสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้หลายสัปดาห์ ตราบใดที่มันไม่ถูกสัตว์นักล่าสวาปาม แค่มันทำตัวนิ่งเฉย ไม่เดินเพ่นพ่านให้ติดเชื้อรา แบคทีเรีย หรือไวรัส มาปลิดชีพ นอกจาก นี้ อวัยวะแต่ละส่วนของแมลงสาบยังมีกลุ่มเนื้อเยื่อประสา ทเฉพาะของตัวเอง คอยตอบสนองระบบประสาทพื้นฐาน ถึงจะไม่มีสมองร่างกายของมันยังทำงานพื้นๆ ได้ เช่น ยืน และขยับตัวได้เมื่อถูกแตะ และไม่ใช่แต่ลำตัวเท่านั้นที่แสดงปฏิกิริยาตอบสนองได ้ แม้แต่หัวที่ขาดกระเด็นออกมาจากร่างกาย ยังสามารถขยับหนวดไปมาได้หลายชั่วโมงจนกว่าพลังงานหมด หรือถ้าเอาสารอาหารป้อนแล้วไปเลี้ยงในตู้เย็น หัวแมลงสาบยังขยับได้อีกนาน

http://u-rass.blogspot.com/

ทำไมแมลงสาบตายมันจึงหงายท้อง?


แมลงสาบป่าเป็นอาหารชั้นดีสำหรับนกและสัตว์ตัวเล็กๆ อื่นๆ แต่เมื่อแมลงสาบมาอาศัยบ้านเรานั้น แน่นอนเรากินมันไม่ได้ ดังนั้นการกำจัดแมลงสาบคือการใช้เท้ากระทืบหรือเอาอะ ไรสักอย่างทับให้ไส้แตก และวิธีที่ฮิตที่สุดคือการใช้สารฆ่าแมลงฉีดพ่น แต่คุณเคยสังเกตไหมว่าทำไมเมื่อแมลงสาปโดนสารฆ่าแมลง นี้เข้าไป ทำไมมันจึงหงายท้องก่อนตาย ความจริงแล้ว แมลงสาบในธรรมชาติส่วนน้อยเท่านั้นที่หงายหลังตาย เพราะโดยทั่วไปแมลงสาบมักเป็นอาหารแก่สัตว์ต่างๆ ก่อนที่มันจะตายนั้นเอง แต่ เมื่อแมลงสาบมาอยู่บ้านมนุษย์ แมลงสาบไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออาศัยอยู่บนพื้นผิว เรียบๆลื่นๆ และโล่งๆ โครงสร้างร่างกายของมันส่วนใหญ่สร้างมาเพื่ออาศัยอยู ่ในพื้นที่ขรุขระ มีเศษวัสดุอย่าง เช่น ใบไม้กิ่งไม้ กระจัดกระจายไปทั่ว เมื่อมันมาอาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งมีแต่พื้นเรียบๆลื่นๆ และโล่งๆ จากก็จะทำให้มันมีโอกาสมากที่จะพลิกกลับลำตัวไม่ได้ เมื่อเผอิญหงายท้องไป
ดังนั้นอาจบอกได้ว่า บ้านใครที่สะอาดๆ แมลงสาบมีโอกาสจะตายเองมากกว่า ส่วน กรณีที่ว่าทำไมแมลงสาปโดนสารฆ่าแมลงนี้เข้าไป ทำไมมันจึงหงายท้องก่อนตาย เนื่องด้วยสารฆ่าแมลงส่งผลผลต่อระบบประสาทของแมลงสาบ โดยไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Cholinesterase เอนไซม์ชนิดนี้เป็นเอนไซม์ที่มีหน้าที่สลาย Acetylcholine (ACh) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท เมื่อเอนไซม์ไม่ทำงาน มี ACh มากเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอัมพาต ขาของแมลงสาบจะงอเข้าหากัน เกิดเป็นความไม่สมดุล และทำให้แมลงสาบหงายท้องตายนั้นเอง

http://u-rass.blogspot.com/

แมลงสาบต้นเหตุทำให้โลกร้อน


ข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริง จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าแมลงสาบผายลมออกมาเป็นก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ เฉลี่ยทุก 15 นาที หลังจากมันตายมันก็ปล่อยก๊าซมีเทนถึง 18 ชั่วโมง จากสถิตพบว่าผายลมที่แมลงปล่อยมีมากถึง 20 % ของการปล่อยก๊าซมีเทนทั้งหมดในโลก ด้วยเหตุนี้ทำให้แมลงสาบขึ้นบัญชีดำว่าเป็นตัวการใหญ ่ที่ทำให้เกิดโลกร้อน อย่างแท้จริง(นอกจากนี้ยังมีตัวการอีกชนิดคือปลวก ซึ่งปลวกทุกตัวจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมา เพราะการกัดกินไม้ทำให้เกิดก๊าซขึ้นในกระเพาะ มันจึง ผายลมออกมา)

http://u-rass.blogspot.com/2010/08/10.html

ไข่แมงสาบ

ไข่แมงสาบ


แมลงสาบ วางไข่เป็นกลุ่ม กลุ่มละหลายฟอง และจะเชื่อมติดกันเป็นกลุ่มด้วยสารเหนียวมีลักษณะเป็ นแคปซูล หรือกระเปาะ รูปร่างเหมือนเมล็ดถั่ว (ootheca) รูปร่างลักษณะของแคปซูลจะแตกต่างกับไปไม่แน่นอนแล้วแ ต่ชนิดของ แมลงสาบ แมลงสาบ บางชนิดจะนำกระเปาะไข่ติดตัวไปด้วยจนไข่ใกล้จะฟักจึง ปล่อยออกจากลำตัว แต่บางชนิดอาจมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (parthenogenesis) ก็ได้ ลักษณะ การวางไข่ของ แมลงสาบ แตกต่างกัน บางชนิดจะวางไข่ตามซอกมุมหรือในดิน หรืออาจจะวางติดกับฝาผนังบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ แมลงสาบหนึ่งตัว สามารถวางไข่กี่ฟองในชั่วชีวิตของมัน โดยเฉลี่ยแล้วแมลงสาบมีอายุ 180 วัน มันวางไข่เป็นกระเปาะ กระเปาะละ 30-40 ฟอง โดยชั่วชีวิตของมันจะออกได้ 6-8 ล็อก เมื่อคำนวณดูพบว่าแมลงสาบตัวเมียหนึ่งตัวสามารถกำเนิ ดลูกถึง 180 - 320 ตลอดชั่วชีวิตของมัน นับว่าเป็นแมลงที่ลูกดกจริงๆ

ที่มาhttp://u-rass.blogspot.com/2010/08/10.html